ลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วน ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน กับทุกคนไปซะแล้ว และหลายๆคนก็อยากที่จะลดน้ำหนักภายในเวลาอันสั้น
เดี๋ยววันนี้ ผม 9Sor จะมาทดสอบให้ดูกันครับว่า ลดน้ำหนักอย่างไรให้เห็นผลภายใน 5 วัน ลดไปได้ถึงกี่กิโล โดยที่ไม่ออกกำลังกายเลยและไม่ต้องทรมานกับความหิวด้วย
ต้องขอบอกก่อนครับว่าด้วยความที่ผมสงสัยว่าการทานอาหารClean แล้วจะทำให้การ ลดน้ำหนักสามารถลงไปเยอะมันจริงไหม เลยทำให้เกิดคลิปนี้ขึ้นมา ลดน้ำหนักโดยการกินอาหารคลีน 5วัน!! ลดไปเท่าไหร่มาดูกัน
ลดน้ำหนัก ใน Vdo นี้ผมให้คนนึงที่เป็นพี่ชายผม และ อีกคนนึงที่เป็นน้องสาวผม
ทดลองทานอาหารคลีนภายใน 5 วัน
ประวัติคร่าวๆ ผู้เข้าร่วม ทดสอบ
พี่ชาย
อายุ 31 ปี
น้ำหนัก 91.7 Kg
สูง 164 cm
พฤติกรรม ชอบทานของทอด , ของมัน , น้ำอัดลม , ของหวาน , กินจุกจิก , กินตอนดึก , ไม่ชอบออกกำลังกาย
น้องสาว อายุ 26 ปี น้ำหนัก
60 kg
สูง 154 cm
พฤติกรรม ชอบทานของทอด , ของมัน , น้ำหวาน , ไม่กินจุกจิก , กินอาหารมื้อใหญ่ , กินตอนดึก , ไม่ชอบออกกำลังกาย
ผู้เข้าร่วมทดสอบคนที่ 1 (พี่ชาย)
1.ผมให้ทานอาหารคลีน เป็นเวลา 5 วัน และ ให้ทานอาหารวันละ 5 – 6 มื้อนะครับ
โดยแต่ละมื้อจะห่างออกไปประมาณ 2-4 ช.ม ขึ้นอยู่กับว่าผู้ร่วมทดสอบหิวเมื่อไหร่ครับ
กฏเหล็กของการทำแบบทดสอบนี้ ห้ามหิว !! (ทำไมถึงเป็นกฏเหล็ก เดี๋ยวผมมาสรุปให้ท้ายบทความนี้ครับ)
2.ผู้เข้าร่วมทดสอบ จะต้องไม่ออกกำลังกายเลย ภายใน 5 วันนี้ แต่จริงๆแล้ว
พี่ชายผมก็เป็นคนไม่ได้ออกกำลังกายอยู่แล้วครับ ถ้าสังเกตุจากน้ำหนักตัว !!
3.ให้ทานขนมได้ แต่ต้องอยู่ในการควบคุมของผม และขนมที่ให้ทานก็เช่น
ปลาเส้น , หมูแผ่นอบกรอบ , คุกกี้ธัญพืช , โยเกิร์ตกราโนล่า , เป็นต้นครับ
ที่ให้ทานขนมได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ แต่ว่าต้องเลือกทานขนมให้เหมาะ
สมกับช่วงที่Dietอยู่นั่นเองครับ จะสังเกตุได้ว่าขนมที่ให้ทานนั้น จะไม่มีขนมที่เอาไปทอดเลย
และเป็นขนมที่Fatน้อยมากๆ หรืออย่างเช่นคุกกี้ธัญพืช ที่มีFat ค่อนข้างสูง เพราะทำมาจาก
พวกถั่วเป็นหลัก แต่จะเป็นFatชนิดดีครับ ก็คือไขมันที่ร่างกายต้องการนั่นเอง
4.ไม่คุมแคลอรี่ เนื่องจากน้ำหนักตัวของพี่ชายผม ค่อนข้างสูง (เกินเกณ) ซึ่งน้ำหนักตัวที่สูงมากๆ ก็ต้องการพลังงานมากเช่นกัน ผมก็เลยไม่จำกัดปริมาณของแคลอรี่ที่ได้รับนะครับ
แต่จะให้เลือกทานอาหารที่ไม่มีไขและน้ำตาลเป็นหลักครับ เช็คปริมาณสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้ที่นี่ครับ
ผู้เข้าร่วมทดสอบคนที่ 2 (น้องสาว)
1.ทานอาหารวันละ 3 มื้อตามปกติครับ ถ้าหิวระหว่างมื้ออาหาร ให้เลือกทานของว่างได้ครับ ที่ให้ทานแค่ 3 มื้อ ก็เพราะว่า
น้ำหนักตัวของน้องสาวผม ไม่ได้เยอะเท่าพี่ชาย ถ้าหากทาน 5-6 มื้อเหมือนกัน แคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน จะเกินกว่าที่ร่างกายต้องการไปมากครับ
2.ไม่ออกกำลังกายเหมือนกันครับ เพราะน้องไม่ยอมออกกำลังกายให้ด้วยครับ T^T แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะการลดน้ำหนักขึ้นอยู่กับ
อาหาร 80 % การออกกำลังกายแค่ 20 % เท่านั้นครับ
3.ให้ทานขนมได้ ขนมก็ตามที่ของพี่ชายผมเลยครับ แต่จะไม่ให้ทานหนักเท่ากับพี่ชายผม
เพราะว่าน้ำหนักตัวของน้องสาวผมนั้น น้อยกว่ามาก แต่ทานได้เวลาหิวเท่านั้นครับ ไม่อย่างงั้นแคลอรี่จะเกิน
4.คุมแคลอรี่อาหาร ได้คำนวณแคลอรี่ของน้องสาวผมออกมาแล้ว ใช้พลังงานในแต่ละวัน
ประมาณ 1800 แคลอรี่ ซึ่งผมก็เลยต้องจำกัดแคลอรี่ของน้องสาวไว้ไม่เกิน 1600 แคลอรี่ต่อ 1 วันครับ
ทีนี้จากการทดสอบ 5 วัน การทาน Clean food ผลปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาดไปมากครับ
ตอนแรกหวังไว้ว่าพี่ชาย น่าจะลดได้สัก 1 kg ส่วนน้องสาวน่าจะสักประมาณ 5 ขีดก็น่าจะดีใจแล้วว
คนที่ 1 (พี่ชาย)
ลดน้ำหนักไปได้ถึง 1.6 Kg (เกินคาดมา 0.6 kg)
คนที่ 2 (น้องสาว)
ลดน้ำหนักไปได้ถึง 0.9 kg (เกินคาดมา 0.4 kg)
ผมจะมาขออธิบายเพิ่มเติมว่า ทำไมน้ำหนักตัวของพี่ชาย ถึงได้ลดลงไปได้มากกว่า
เป็นเพราะว่าน้ำหนักตัวพี่ชาย สูงกว่าน้องสาวมากๆ คนที่น้ำหนักตัวสูงๆจะลดน้ำหนักได้รวดเร็วกว่า คนที่น้ำหนักน้อยมากๆ เพราะช่วงแรกที่ลดน้ำหนักนั้น สิ่งที่หายไปก็คือน้ำในตัวและมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้น้ำหนักลดเร็วมากๆ ในช่วงแรก และต่อมาคือไขมันที่ร่างกายจะเริ่มดึงไปใช้ ไขมันนี่แหละที่ลดลงได้ช้ามากๆ แต่ยิ่งลดไขมันได้เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งหุ่นเฟิร์มได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
ให้โฟกัสไปที่น้ำหนักก่อน 3 สัปดาห์หลังให้โฟกัสที่ % ไขมันที่ลดลงกันนะครับ (จะได้ไม่หมดกำลังใจ)
- ลดน้ำหนักโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย สามารถทำได้จริงครับ ขอแค่ทานอาหารถูกหลัก
รู้ว่าอะไรทานได้มาก อะไรทานได้นิดหน่อย พอหอมปากหอมคอ - สาเหตุที่ไม่ปล่อย ให้ผู้เข้าร่วมทดสอบหิวเลย เป็นเพราะเมื่อเราหิวมากๆนั้น
ร่างกายเราจะเริ่มเก็บไขมันไว้ใช้ ซึ่งถ้าหากร่างกายเก็บไขมันไว้ จะทำให้เราเกิดไขมันสะสมเพิ่มไปเรี่อยๆครับ
แล้วจะทำให้ไขมันที่ได้รับเข้าไปใหม่นั้น ทับถมลงไปเพิ่มอีกเรี่อยๆ เท่ากับว่าของเก่ายังไม่ได้ใช้ ของใหม่ก็มาทับเข้าไปอีกแล้ว
ร่างกายของเรานั้น ยังเป็นแบบโบราณอยู่ ซึ่งร่างกายมันฉลาดมากๆ ที่จะช่วยรักษาชีวิตเราไว้ เพราะแต่ก่อนยังไม่ได้มีอาหารให้ทาน
เหลือเฟือขนาดนี้ครับ - แคลอรี่ไม่ต้องไปซีเรียสมันมากครับ ให้ดูสารอาหารเป็นหลัก สำหรับคนที่น้ำหนักเยอะๆนะครับ แต่ถ้าน้ำหนักน้อยต้องควบคุมปริมาณแคลอรี่ครับ เพราะคนที่น้ำหนักตัวน้อยๆนั้น จะรับแคลอรี่ได้น้อยกว่ามาก ทานอะไรนิดหน่อยก็อ้วนอีกและ เลยอยากให้จำกัดแคลอรี่ไว้หน่อยครับผมหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าคนที่ได้อ่านบทความนี้ จะนำไปปรับใช้ในการลดน้ำหนักได้ ไม่มาก ก็น้อยครับ
และขอให้ทุกท่านมีหุ่นที่เฟิร์ม มีสุขภาพที่ดีเยี่ยม ไม่เจ็บ ไม่ป่วยนะครับ
ผม 9Sor ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านอาหาร หรือ การออกกำลังกาย แวะมาพูดคุยกันได้ที่ Feacbook Fanpage ของผมนะครับ
ติดตามบทความอื่นๆของ 9Sor (คลิก)